ร่วมสร้างโรงเรียนปลอดบุหรี่ ขับเคลื่อนสังคมสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน

ข่าว/กิจกรรม 26 ก.ค. 66 | เข้าชม: 469

เวทีประกาศเกียรติคุณ “ศูนย์การเรียนรู้โรงเรียนปลอดบุหรี่”

“โรงเรียนเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของเด็กทุกคนในการการใช้ชีวิตนอกรั้วบ้าน” ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่เรียนรู้กับเพื่อนและคุณครูอย่างเดียวเท่านั้น โรงเรียนยังเป็นแหล่งสร้างความรู้ ฝึกทักษะและหล่อหลอมให้ทุก ๆ คน สามารถใช้ชีวิตร่วมอยู่กับสังคมผู้คนบนโลกได้อย่างปกติสุข 

นอกจากนี้ โรงเรียนยังเป็นสถานที่ที่สร้างเสริมสุขภาพให้เด็กห่างไกลจากปัจจัยเสี่ยงต่าง เพื่อให้เด็กนักเรียนมีภูมิคุ้มกันและเติบโตไปเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ เป็นกำลังหลักในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสกัดกั้นไม่ให้เด็กและเยาวชนไทยถลำลึก ก้าวสู่วงจรการทำร้ายสุขภาพได้นั้น ต้องเริ่มที่  “โรงเรียน” ต้องทำให้โรงเรียนปลอดบุหรี่ เพราะบุหรี่เป็นสิ่งเสพติดชนิดแรกที่เยาวชนให้ความสนใจ และมันสามารถนำไปสู่ยาเสพติดที่ร้ายแรงยิ่งขึ้นได้

นโยบาย “โรงเรียนปลอดบุหรี่ต้นแบบ” จึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่เกิดขึ้นจากการผลักดันของ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ โดยการสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่จับมือร่วมกับเครือข่ายครูเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่ที่เล็งเห็นว่า การจะส่งเสริมให้เด็กไทยห่างไกลบุหรี่ได้ ด้วยการเพิ่มความรู้และความเชื่อที่เหมาะสมเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ และทำให้เยาวชนตัดสินใจไม่สูบบุหรี่ได้ง่ายขึ้น ต้องเริ่มที่ “โรงเรียน”

ในประเทศไทยมีเด็กและเยาวชนวัยเรียน 14 ล้านคน หากโรงเรียนทั่วประเทศปลอดบุหรี่ได้อย่างแท้จริง ก็จะลดโอกาสการเสพติดบุหรี่ของเด็กและเยาวชนได้ปีละนับหมื่นคน

จากสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2564 พบว่า เยาวชนไทยมีอัตราการสูบบุหรี่ 6.2% หรือลดลงจาก ปี 2560 ที่มีอัตราการสูบบุหรี่ 9.7% ขณะที่การสำรวจจำนวนนักสูบหน้าใหม่ในปี 2564 ยังพบว่า มีจำนวนนักสูบหน้าใหม่ลดลงเหลือ เพียง 155,813 คน ซึ่งลดเกือบสามเท่าเมื่อเทียบกับในปี 2560 ที่มีนักสูบถึง 447,084 คน  ล้วนเป็นผลมาจาก “ความพยายาม” ของคนหลากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับสสส.และภาคีเครือข่าย ที่ร่วมสร้างสรรค์ทั้งมาตรการต่าง ๆ และพัฒนากิจกรรมป้องกันนักสูบหน้าใหม่ ไม่ให้เพิ่มขึ้น

แวะเวียนไปที่เวทีประกาศเกียรติคุณ “ศูนย์การเรียนรู้โรงเรียนปลอดบุหรี่” โดยเครือข่ายครูเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่ และมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เมื่อวันพุธที่ 28 มิถุนายน 266 ที่ โรงแรมอัศวิน แกรส คอนแวนชั่น กรุงเทพ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ภาคีเครือข่ายครูเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่ ปกป้องเยาวชนจากการตกเป็นเหยื่อการเสพติดนิโคตินในบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

รศ.ดร.แล ดิลกวิทยรัตน์ คณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 สสส. กล่าวว่า สสส. ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนงานสถานศึกษาปลอดบุหรี่มาอย่างต่อเนื่อง สร้างและขยายเครือข่ายเยาวชนแกนนำร่วมขับเคลื่อนงานควบคุมยาสูบ มุ่งเสริมสร้างให้เด็กและเยาวชนมีข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า รู้เท่าทันกลยุทธ์ของธุรกิจยาสูบ

เราต้องเริ่มสร้างสังคมคมปลอดบุหรี่ในโรงเรียน เพื่อสร้างการรับรู้ให้เด็กและเยาวชนโดยตรง จัดกิจกรรมรณรงค์ประจำอย่างต่อเนื่อง จะช่วยเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจถึงพิษภัยของบุหรี่ และช่วยป้องกันไม่ให้เขาอยากทดลองสูบบุหรี่ได้จริง จะเป็นด่านแรกที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ก้าวไปสู่สิ่งเสพติดชนิดอื่นได้

ด้านรศ.ดร.จักรพันธ์ เพ็ชรภูมิ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ในฐานะภาคีเครือข่าย สสส. ได้นำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจให้ฟังว่า นักเรียนที่เรียนในโรงเรียนที่มีกิจกรรมต่อต้านบุหรี่เป็นบางครั้ง มีโอกาสสูบบุหรี่มากกว่านักเรียนที่เรียนในโรงเรียนที่จัดกิจกรรมเป็นประจำ 1.6 เท่า ส่วนโรงเรียนที่มีการจัดกิจกรรมต่อต้านบุหรี่เป็นประจำช่วยลดโอกาสในการสูบของนักเรียนลง 17%

“และพบว่า เด็กต้องการให้ครูนำข้อมูลทางการแพทย์หรือผลวิจัยที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่มาประกอบการสอนในห้องเรียน เพื่อสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องและเท่าทันกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ ๆ ของบริษัทบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น”  รศ.ดร.จักรพันธ์ กล่าว

ขณะที่นางสุวิมล จันทร์เปรมปรุง ประธานเครือข่ายครูเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่ กล่าวว่า เยาวชนควรได้รับการปกป้องดูแลให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยในทุกมิติ บุหรี่เป้นเหมือนประตูสู่ยาเสพติดที่ร้ายแรงยิ่งขึ้น ซึ่งงานวิจัยทั่วโลกระบุชัดว่า นิโคตินส่งผลกระทบต่อสมองของวัยรุ่นที่กำลังพัฒนา เสพติดได้ ส่งผลให้ขาดสมาธิและสมรรถนะการเรียนรู้ และเกิดความผิดปกติทางด้านอารมณ์

“เครือข่ายครูฯ จึงได้พัฒนาจุดจัดการเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่ 10 จังหวัด ร่วมกันขับเคลื่อนโรงเรียนดำเนินงานตาม 7 มาตรการเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนกลายเป็นโรงเรียนต้นแบบปลอดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยกระดับเป็นศูนย์การเรียนรู้โรงเรียนปลอดบุหรี่ให้สถานศึกษาอื่น สอดคล้องและเสริมหนุนโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขของกระทรวงศึกษาธิการ” นางสุวิมล กล่าว

ภายในงานประกาศเกียรติคุณ “ศูนย์การเรียนรู้โรงเรียนปลอดบุหรี่” ยังมีบูธนิทรรศการ 9 โรงเรียน จากจุดจัดการเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่ โดยแต่ละโรงเรียนใช้ 7 มาตรการเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนงานทั้งระบบ จนสามารถพัฒนาไปเป็นนวัตกรรมรณรงค์ต่อต้านบุหรี่ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละโรงเรียน

พบกับ “นวัตกรรมนิทานสอนใจต้านภัยบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ผลงานของโรงเรียนวัดลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็น 1 ใน 9 โรงเรียนที่ได้รับรางวัลจากจุดจัดการเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่

คุณครูเกมจิราวรรณ วรรณวินัย ครูผู้รับผิดชอบโครงการ เล่าให้ฟังว่า ปกติโรงเรียนจะมีการประกวดแต่งนิทานกันอยู่แล้วทุกปี ซึ่งปีนี้จัดประกวดในหัวข้อเหล้า บุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า โดยเนื้อหาของนิทานมีการสอดแทรกสาระความรู้พิษภัยของบุหรี่ พร้อมกับเกมท้ายเล่มให้เด็ก ๆ ได้มีส่วนร่วมอีกด้วย นอกจากสร้างความเข้าใจรู้เท่าทันโทษของบุหรี่แล้ว ยังฝึกให้เด็กและเยาวชนมีนิสัยรักการอ่านอีกด้วย

เล่าต่อว่า ผลสำเร็จของนวัตกรรมนี้ไม่ใช่ตัวเลขหรือสถิติใด ๆ แต่เป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ปกครองที่ลด ละ เลิกบุหรี่ได้ จากการอ่านนิทานหรือบทความที่ลูก ๆ แต่งขึ้น นอกจากเด็กมีความภูมิใจกับผลงานของตัวเองแล้ว ผู้ปกครองเองก็มีความภูมิใจในตัวลูกหลานของเขาเช่นกัน

ทิ้งท้ายกับการร่วมสร้างโรงเรียนปลอดบุหรี่ เพื่อสุขภาวะที่ดีของเยาวชนด้วย 7 มาตรการเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่ ประกอบด้วย 1. กำหนดนโยบาย 2. การบริหารจัดการ 3. การจัดสภาพแวดล้อม 4. การสอดแทรกเรื่องบุหรี่ในการจัดการเรียนรู้ 5. การมีส่วนร่วมของนักเรียนเพื่อการขับเคลื่อน 6. การดูแลช่วยเหลือนักเรียนไม่ให้สูบบุหรี่ 7. การมีกิจกรรมร่วมระหว่างโรงเรียนและชุมชน

สสส. และภาคีเครือข่ายสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนรู้เท่าทันพิษภัยของบุหรี่ สร้างองค์ความรู้ที่ถูกต้อง  รณรงค์จัดกิจกรรมสร้างค่านิยมไม่สูบบุหรี่ ลดจำนวนนักสูบหน้าใหม่ ปกป้องเยาวชนไทยจากการตกเป็นเหยื่อการเสพติดนิโคตินในบุหรี่ ขับเคลื่อนสังคมสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน

สำหรับโรงเรียนที่ต้องการข้อมูลการทำงานโรงเรียนปลอดบุหรี่ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่… https://www.smokefreeschool.net หรือเพจ https://www.facebook.com/smokefreeschool