ผลวิจัยใหม่พบ “บุหรี่ไฟฟ้า” ทำลาย DNA เพิ่มเสี่ยงมะเร็งเท่าบุหรี่ธรรมดา

อันตรายจากบุหรี่ 8 มี.ค. 66 | เข้าชม: 1,820

สุดอันตราย! ผลวิจัยใหม่พบ “บุหรี่ไฟฟ้า” ทำลายดีเอ็นเอของเซลล์ในช่องปาก เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเทียบเท่าบุหรี่ธรรมดา

21 กุมภาพันธ์ 2566 รศ.ดร.พญ.เริงฤดี ปธานวนิช อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยผลงานวิจัยใหม่ โดยคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซาท์เทิร์น แคลิฟอร์เนีย ที่พบว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้า ส่งผลให้ดีเอ็นเอของเซลล์ในช่องปาก ถูกทำลายไม่ต่างจากการสูบบุหรี่ธรรมดา

ซึ่งการที่ดีเอ็นเอถูกทำลายนี้ จะทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ รวมทั้งโรคมะเร็ง โดยนักวิจัยคัดเลือกผู้ใหญ่ 72 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม 1.ผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า (ไม่เคยสูบบุหรี่ธรรมดาเลย) 2.ผู้สูบบุหรี่ธรรมดา (ไม่เคยสูบบุหรี่ไฟฟ้าเลย) 3.ผู้ที่ไม่มีประวัติสูบทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ธรรมดา เก็บข้อมูลประวัติการสูบ ความถี่ ชนิดของบุหรี่ที่สูบ และความเสี่ยงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด และเก็บตัวอย่างเซลล์เยื่อบุช่องปากทุกคน เพื่อนำมาตรวจลักษณะของดีเอ็นเอ

รศ.ดร.พญ.เริงฤดี กล่าวต่อว่า ผลวิจัยพบว่าคนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า พบดีเอ็นเอของเซลล์เยื่อบุช่องปาก ถูกทำลายเป็น 2.6 เท่า ส่วนคนที่สูบบุหรี่ธรรมดา พบดีเอ็นเอถูกทำลายเป็น 2.2 เท่า เมื่อเทียบกันคนที่ไม่มีประวัติสูบบุหรี่ใด ๆ

ในกลุ่มที่สูบ บุหรี่ไฟฟ้า พบว่า ยิ่งสูบมากขึ้น ดีเอ็นเอยิ่งถูกทำลายมาก หากพิจารณาตามชนิดบุหรี่ไฟฟ้าที่สูบ พบว่าผู้ที่สูบ บุหรี่ไฟฟ้าแบบพอด ดีเอ็นเอถูกทำลายมากที่สุด หากพิจารณาตามรสชาติบุหรี่ไฟฟ้าที่สูบ เช่น รสผลไม้ รสเมนทอล พบดีเอ็นเอถูกทำลายมากขึ้น ทั้งนี้ไม่เกี่ยวกับระดับนิโคติน ในบุหรี่ไฟฟ้า คือไม่ว่าจะมีนิโคตินมากหรือน้อย ก็ส่งผลให้ดีเอ็นเอถูกทำลายเช่นกัน

“งานวิจัยชิ้นนี้ขจัดข้อสงสัย ของกลุ่มสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้า ที่มักออกมาโต้แย้งงานวิจัย ที่แสดงถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า โดยมักอ้างว่า เป็นเพราะคนสูบบุหรี่ไฟฟ้า เคยสูบบุหรี่ธรรมดามาก่อน เพราะงานวิจัยชิ้นนี้คัดเลือกคนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ธรรมดาเลย" 

ดังนั้นผลการศึกษา จึงบอกได้อย่างชัดเจนว่า การที่เซลล์ดีเอ็นเอถูกทำลาย ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งนี้ เป็นผลจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าจริง ๆ ที่สำคัญงานวิจัยในหนูทดลอง พบว่า หนู 9 ตัว จาก 40 ตัวที่ได้รับไอบุหรี่เป็นเวลาหนึ่งปีเศษ เป็นมะเร็งปอด และ 22 ตัวมีการเปลี่ยนแปลง ของเยื่อบุกระเพาะปัสสาวะ ที่เหมือนเนื้อมะเร็งระยะแรก

รศ.ดร.พญ.เริงฤดี กล่าวอีกว่า การที่กลุ่มสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้า พยายามให้ข้อมูลกับสังคมว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีสารพิษน้อยกว่า ทำให้มีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดา เชื่อถือไม่ได้แล้วเพราะสารพิษน้อยกว่าไม่ได้หมายความว่า อันตรายน้อยกว่า นอกจากนี้บุหรี่ไฟฟ้ายังมีสารเคมีอีกกว่า 2,000 ชนิด ที่ไม่พบมาก่อนในบุหรี่ธรรมดา 
 

ส่วนกรณีบุหรี่ไฟฟ้า ที่กำลังเป็นประเด็นดราม่าในสังคมไทย และมีนักการเมืองหลายพรรค กำลังมีความคิดว่า จะทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย อยากให้พิจารณาผลการศึกษาวิจัยบุหรี่ไฟฟ้าอย่างรอบคอบ คิดถึงผลกระทบที่จะเกิดกับสังคม โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ที่จะหลงเข้าไปเสพติดบุหรี่ไฟฟ้าให้มาก ๆ

ข้ออ้างที่ว่า ทำบุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกกฎหมาย เพื่อลดปัญหาคอรัปชั่นของเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกจุด ที่ถูกต้องคือ แก้ที่เจ้าหน้าที่ให้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งจะส่งผลดีต่อเด็กและเยาวชนมากกว่า

 

ข้อมูลจาก :

https://www.nationtv.tv/news/social/378904783?fbclid=IwAR0HmCyMmqpGJPClg8OsYUqt6t8hYtzR3D5eg4KKX5XQaDo4l6wBdGXwiVI