พนักงานที่ไม่สูบบุหรี่มีสุขภาพแข็งแรงกว่าพนักงานที่สูบบุหรี่ เพราะพนักงานที่สูบบุหรี่จะมีแนวโน้มในการเข้าโรงพยาบาลสูงกว่า และมีอัตราการลาหยุดสูงกว่าผู้ไม่สูบบุหรี่ร้อยละ 25-30 ทั้งนี้พนักงานที่สูบบุหรี่มากกว่า 15 มวน/วัน จะมีอัตราการลาป่วยเป็น 2 เท่าของพนักงานที่ไม่สูบบุหรี่ ลดความสูญเสียจากการเกิดอัคคีภัยและการเกิดอุบัติเหตุอันเนื่องจากการสูบบุหรี่
- พนักงานที่สูบบุหรี่จะมีอัตราการเกิดอุบิติเหตุในระหว่างการทำงานสูงกว่าพนักงานทั่วไปถึง 2 เท่า เนื่องจากขาดสมาธิในการทำงาน เพราะมือข้างหนึ่งต้องคีบบุหรี่ไว้ นอกจากนั้นการแสบตาและการไอ ซึ่งเกิดจากการสูบบุหรี่ก็มีส่วนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นเดียวกัน
- ลดความขัดแย้งกับพนักงานที่สูบบุหรี่และไม่สูบบุหรี่
- สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่หน่วนงานอื่นๆ
- เพิ่มภาพพจน์ขององค์กรต่อผู้มาใช้บริการและต่อสาธารณชน
- เป็นการสนับสนุนให้พนักงานที่สูบบุหรี่เลิกบุหรี่ได้โดยง่าย โดยจากรายงานของกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐอเมริกา ระบุว่าการจัดให้ที่ทำงานเป็นเขตปลอดบุหรี่มีผลให้ผู้สูบบุหรี่หยุดสูบบุหรี่ได้สำเร็จมากขึ้น
- สำหรับพนกงานที่ยังเลิกบุหรี่ไม่ได้ การจัดเขตปลอดบุหรี่ในสำนักงานทำให้เขาต้องลดจำนวนบุหรี่ลง และนำไปสู่การเลิกสูบบุหรี่ได้ในอนาคต
- สำหรับพนักงานที่ต้องการเลิกบุหรี่อยู่แล้ว ข้อจำกัดในการสูบบุหรี่นี้เป็นเหตุผลที่ดีที่ทำให้ผู้สูบบุหรี่สามารถตัดสินใจเลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้น
เอกสารดาวน์โหลด